ศาสตร์แห่งความ “แตกต่าง” – การเรียน Gender Studies ในประเทศเยอรมนี

เรื่องและสัมภาษณ์: พรรณพร อัชวรานนท์

จากคอลัมน์ “ก้าวที่แตกต่าง” (TSVD: opnmnd Magazine #3 บูรณาการ)

 

ในโลกแห่งการเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ ที่ไม่หยุดนิ่ง การเรียนสาขาวิชาที่แปลก ไม่ค่อยมีคนศึกษาหรือมีคนสนใจ (หรือไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีการเรียนการสอนวิชานั้นๆ) มักถูกมองว่าด้อยค่าและยากที่จะประกอบอาชีพต่อไปได้ ยิ่งโดยเฉพาะศาสตร์ทางสายสังคม ซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสายวิทยาศาสตร์ ที่ฟังดูเหมือนว่าง่ายแต่กลับเป็นสาขาวิชาที่คนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ หนึ่งในนั้นคือ Gender Studies หรือ เพศสภาพศึกษา สาขาวิชาหนึ่งทางสายสังคมศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลกอันบิดเบี้ยวของเราทุกวันนี้ หากแต่คนทั่วไปยังมักเข้าใจว่าสาขาดังกล่าวคือการศึกษาเรื่องเพศ บ้างก็ไปไกลถึงเพศศึกษา opnmnd จึงไม่รอช้า เนื่องจากไม่อยากให้คุณผู้อ่านต้องคาดคะเนไปต่างๆ นานากันอีกต่อไป ทีมงานจึงไปค้นคว้าหาดาวและได้พบกับสาวน้อยช่างจำนรรจา นั่นคือ น้องมะปราง หรือ มัชฌุวิญญ์ ตุ้มพงษ์ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการของ Gender Studies และเต็มไปด้วยความคิดความอ่านที่จะกระตุกต่อมสงสัยของใครหลายๆ คน

 

Continue reading ศาสตร์แห่งความ “แตกต่าง” – การเรียน Gender Studies ในประเทศเยอรมนี

กินได้ กินดี – New Zealand

Pad Thai

 

Grasshopper (22 Lower Albert Street (In the Stamford Plaza Auckland) Auckland)

อีกหนึ่งร้านอาหารไทยในแบบ Fusion ในโรงแรม Stamford Plaza  ใกล้กับ DFS(Duty Free) Downtown ที่ให้บรรยากาศนั่งแบบสบายๆ เหมาะแก่การพักผ่อนหรือติดต่อธุรกิจการค้า ครัวของที่ Grasshopper นี้เป็นแบบเปิด สามารถมองเห็นพ่อครัวแม่ครัวในระหว่างปรุงอาหารอย่างเพลิดเพลินเจริญตา เป็นการสร้าง Appitize ไปอีกแบบในระหว่างรออาหาร และทุกๆ คืนวันเสาร์จะมีดนตรีสดกล่อมให้ฟังระหว่าง 19.00-21.00 น.  หากมาร้านนี้แล้วไม่รู้จะสั่งอะไรทาน ขอแนะนำว่า ผัดไทยที่นี่อร่อยไม่เป็นรองใครในปฐพี อีกทั้งทางร้านยังมี Cocktail สูตรเฉพาะที่หลากหลาย อีกหนึ่งทีเด็ดของร้านนี้คือ ที่รสชาติเข้ากันได้อย่างอัศจรรย์ เป็นของหวานตบท้าย

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/GHPadThai.JPG}Pad Thai{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/GHMangoSRice.JPG}ข้าวเหนียวดำกับไอศกรีม Mango Sorbet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/GHCocktail.JPG}Delicious Cocktails{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/GHOyster.JPG}Fresh Oysters{/modal}

Mai Thai (Cnr of Victoria & Albert Streets AucklandCBD)

ร้านอาหารไทยแห่งแรกๆ ของเมือง Auckland ที่เปิดทำการมากว่า 20 ปี ตั้งอยู่ใกล้กับ Queen Street ถนนช๊อปปิ้งสายหลัก และตึก Landmark ของเมือง Skycity Casino อาหารไทยที่นี่รสชาติแบบไทยแท้ อีกทั้งมีเมนูอาหารที่หลากหลายให้เลือก ทีเด็ดของร้านนี้หนีไม่พ้นซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวและไก่ผัดเม็ดมะม่วงอันเลื่องชื่อ ในช่วงกลางวันทางร้านมีบริการ Business Lunch Set ในราคาประหยัด แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพเต็มคำ หากใครได้มีโอกาสมาลองรับประทานอาหารที่นี่ แนะนำว่าให้เผื่อท้องไว้ทานของหวานที่มีรสชาติอร่อยโดดเด่น ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอาหารคาว หากไม่แน่ใจว่าจะสั่งอะไรทานเป็นของหวานขอแนะนำ Up the hill (ไอศกรีมสามสีสามรสโปะขึ้นมาเป็นชั้น เสิร์ฟพร้อมกับ Home made Chocolate Florentine) ที่อร่อยกลมกล่อมจนแทบจะละลายไปพร้อมกันเลยทีเดียว

 

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/MTChickenNuts.jpg}ไก่ผัดเม็ดมะม่วงสูตรเด็ด{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/MTApp.jpg}Appetizers!!{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/MTUpthehill.jpg}Up the hill{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/MTFront.jpg}Mai Thai Restaurant{/modal}

 

Oyster Inn (124 Ocean View Road Oneroa, Waiheke Island Auckland)

ร้านอาหารสไตล์ยุโรปบนเกาะ Waiheke ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม พิถีพิถัน บรรยากาศน่านั่ง โดยมีเจ้าของร้าน Jonathan และ Andrew คอยดูแลต้อนรับแขกอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง อาหารแต่ละจานที่เสริ์ฟมาบนโต๊ะสื่อได้ถึงความเอาใจใส่ในการปรุงได้และตกแต่งได้เป็นอย่างดี ทีเด็ดของร้านนี้คือของหวานที่มีรสชาติสุดแสนจะ Finest บวกกับบรรยากาศอันน่านั่งของร้านที่ช่วยทำให้มื้ออาหารที่สุดแสนวิเศษได้อย่างง่ายดาย เป็นส่วนหนึ่งของร้านขายของที่ระลึกจากทางร้าน และอีกส่วนหนึ่งเป็นห้องพักที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาด หากได้มีโอกาศมาเยือนเกาะ Waiheke แห่งนี้

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/Oyster04.JPG}The Oyster Inn{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/Oyster03.JPG}The Oyster Inn{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/Oyster02.JPG}Chocolate Paradise{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/Oyster01.JPG}Toffee & Banana Pudding{/modal}

Red Crab Ellerslie (19 Kalmia Street Eilersie,Auckland)

ร้านอาหารไทยเล็กๆ สไตล์ง่ายๆ ย่านชานเมืองเขต Ellerslie โทนสีแดงตามชื่อร้าน ทำให้ร้านเรียบง่ายดูคลาสสิก อาจไม่มีการตกแต่งที่หรูหรา เวิ่นเว้อ ให้อารมณ์เหมือนทานอาหารตามสั่งในประเทศไทย แต่รสชาติไม่ธรรมดา อาหารไทยที่นี่จะมีรสชาติจัดจ้านเข้าถึงรสชาติอาหารไทย ให้ความรู้สึกสะดวกสบายในชั่วโมงเร่งรีบ แต่ยังได้รสชาติของอาหารไทยแท้แบบเต็มอิ่ม เมนูพิเศษชองทางร้านมีขาหมูรสเด็ด อีกทั้งทางร้านยังมี Coconut rice หรือข้าวมันไว้บริการ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากข้าวสวยตามร้านอาหารไทยทั่วๆ ไปอย่างมีเอกลักษณ์ สามารถเข้ากับเมนูอาหารหลากหลายเมนูได้อย่างน่าทึ่ง

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCECurry.jpg}Red Crab Ellerslie{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCESchrimp.jpg}Red Crab Ellerslie{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCELaab.jpg}Red Crab Ellerslie{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/rcesign.jpg}Red Crab Ellerslie{/modal}

 

Red Crab Waiheke (149 Ocean View Rd. Waiheke Island)

ร้านอาหารไทยเพียงหนึ่งเดียวบนเกาะ Waiheke ที่มีบรรยากาศแสนจะสบาย ตั้งอยู่ริมทะเล การเดินทางจากเมือง Auckland ด้วยเรือเฟอร์รี่ที่สะดวกสบายโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที มายังเกาะ Waiheke ผู้คนส่วนใหญ่มักเดินทางมาเที่ยวชม Vinyard บนเกาะแห่งนี้ แต่หารู้ไม่ว่า นอกจาก Vinyard อันเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแล้ว ร้านอาหาร Red Crab ยังเป็นอีกที่หนึ่งร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนเกาะ Waiheke ด้วยเมนูอาหารกลางวันที่ราคาเป็นกันเอง เริ่มต้นที่ $10 ยิ่งหากต้องการทานอะไรที่พิเศษไปกว่านั้น ทางเชฟจา ก็มี Chef’s Menu ที่หลากหลายในแต่ละวันเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ด้วยความที่ที่ตั้งของร้านอยู่ใกล้ชายทะเล บรรยากาศจึงชวนให้น่านั่งคุยกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเป็นอย่างยิ่ง

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCWChef.JPG}Chef Ja{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCWMenu.JPG}Red Crab Waiheke{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCWLaab.JPG}ลาบหมู{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/YummyNZ/RCWFront.JPG}Red Crab Waiheke{/modal}

โชว์ได้ โชว์ดี – Germany

Top Trade Shows in Germany

 

รวมสุดยอดงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมเด็ดๆแห่งเมืองเบียร์

 

 

เมื่อพูดถึง “นวัตกรรม” แปลกๆใหม่ๆ่ที่มนุษย์สรรค์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่มวลมนุษยชาติแล้ว หนึ่งในประเทศผู้นำอันดับต้นๆ ที่มักถูกกล่าวถึงคุณภาพและความอลังการในการนำเสนอผลงานและจัดแสดงสินค้าจะเป็นใครไปไม่ได้ หากไม่ใช่ประเทศเยอรมนี..

เรามาตามดูกันดีกว่าว่า งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “งานเทรดโชว”์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่โด่งดังขจรขจายไปทั่วโลกของประเทศนี้ มีอะไรกันบ้าง..

Top Trade Shows in Germany

 

Frankfurt Motor Show

หรือ Frankfurt Auto Show ซึ่งชาวเยอรมันมักรู้จักกันในนามของ Internationale Automobil-Ausstellung (IAA) หนึ่งในงานจัดแสดงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก งานนี้จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ในช่วงเดือนกันยายน ณ เมือง Frankfurt am Main ซึ่งจัดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2011 มีผู้เข้าชมงานเกือบ 1 ล้านคน

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show1.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show2.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}

 

ในงานนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ต่างพากันเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมไปถึงรถยนต์ต้นแบบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้ที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถยนต์ รับรองได้ถึงความคุ้มค่าของปริมาณข้อมูลรถรุ่นใหม่ๆ ทั้งยังได้ทดลองสัมผัส รวมไปถึงการทดลองขับอย่างจุใจแน่นอน นอกเหนือจากตัวรถเองแล้ว บริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เสริมต่างๆในรถ ก็ยังมีให้ชมกันอย่างจุใจอีกด้วย งานนี้.. บอกได้คำเดียวว่า ผู้ที่รักและหลงไหลในเทคโนโลยียานยนต์.. “ห้ามพลาดเด็ดขาด”

ค่าเข้าชมงานในปี 2013
ตั๋วราคาปกติ € 18
ตั๋วราคาลด (นักเรียนหรือผู้มีสิทธิพิเศษตามที่ระบุไว้) € 7,50

งาน Frankfurt Motor Show ปีนี้จะจัดระหว่างวันที่ 10-22 September 2013

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show3.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show4.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show5.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show6.jpg}Frankfurt Motor Show{/modal}

CeBIT

ชื่องาน CeBIT ย่อมาจาก Centrum für Büroautomation, Informationstechnologie und Telekommunikation งานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนมีนาคม ณ เมือง Hannover, Germany นอกจากจะเป็นงานเทรดโชว์อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังจัดแสดงงานให้ผู้เข้าชมภายในอาคาร Exhibition Hall ซึ่งในภาษาเยอรมันจะเรียกว่า เมซเซอร์ (Messe) ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมือง Hannover อีกต่างหาก


ในปี 2012 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 330,000 คน โดยในงานมีการจัดแสดงสินค้า รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สิ่งที่เด็ดดวงคือ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆบริษัทมักจะเลือกงาน CeBIT เป็นงานเปิดตัวสินค้าชิ้นโบแดงของตัวเอง ใครเป็นแฟนของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ควรพลาดหาโอกาสซักครั้งไปเยี่ยมชมงาน CeBIT นี้

ค่าเข้าชมงานในปี 2013
ตั๋วราคาปกติ € 40
ตั๋วราคาลด (นักเรียนหรือผู้มีสิทธิพิเศษตามที่ระบุไว้) € 18

งาน CeBIT ปีนี้จะจัดระหว่างวันที่ 5-9 March 2013

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show7.jpg}CeBit in Hannover{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show8.jpg}CeBit in Hannover{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show9.jpg}CeBit in Hannover{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show10.jpg}CeBit in Hannover{/modal}

Photokina – World of imaging

งานเทรดโชว์อุตสาหกรรมภาพและสิ่งพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกๆ 2 ปีในช่วงเดือนกันยายน ที่เมือง Cologne, Germany ในปี 2012 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 180,000 คน จาก 166 ประเทศทั่วโลก

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show11.jpg}Photokina in Cologne{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show12.jpg}Photokina in Cologne{/modal}

ในงานนี้บริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมภาพและสิ่งพิมพ์มักไม่พลาดที่จะนำสินค้าของตัวเองมาจัดแสดง และถือโอกาสเปิดตัวสินค้าใหม่ๆอย่างไม่มีการกั๊กกันไว้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพ เลนส์ เครื่องพิมพ์ (Printer) รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมในการถ่ายภาพอย่างขาตั้งกล้อง กระเป๋ากล้อง เป็นต้น นอกจากนี้ ในงานยังมี Workshop ต่างๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพจากช่างภาพมืออาชีพ และ Gallery แสดงภาพจากช่างภาพจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ใครรักการถ่ายภาพ.. ไม่ควรพลาดงานนี้

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show13.jpg}Photokina in Cologne{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show14.jpg}Photokina in Cologne{/modal}

ค่าเข้าชมงานในปี 2012
ตั๋วราคาปกติ € 45
ตั๋วราคาลด (นักเรียนหรือผู้มีสิทธิพิเศษตามที่ระบุไว้) € 14

งาน Photokina ในคราวต่อไปจะจัดระหว่างวันที่ 23-28 September 2014

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show15.jpg}Photokina in Cologne{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show16.jpg}Photokina in Cologne{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show17.jpg}Photokina in Cologne{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show18.jpg}Photokina in Cologne{/modal}

Frankfurt Book Fair

หรือ Frankfurter Buchmesse ของชาวเยอรมัน อีกหนึ่งความอลังการของนิทรรศการเกี่ยวกับหนังสือและสิ่งพิมพ์ที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ดึงดูดหนอนหนังสือทั่วโลกมางานนี้ โดยงานดังกล่าวมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมือง Frankfurt am Main, Germany ความยิ่งใหญ่ของงานนั้นวัดจากจำนวนผู้เข้าร่วมจัดแสดงที่มากกว่า 7,000 ราย จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2012 ที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงาน เกือบ 300,000 คน

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show19.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show20.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show21.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show22.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}

ในงานนี้นอกจากหนังสือนับแสนนับล้านเล่มที่นำมาจัดแสดงให้บุคทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาชมหนังสือหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว อีกหนึ่งความสำคัญของงานยังอยู่ที่การเจรจาต่อรอง รวมไปถึงการซื้อขายหนังสือและลิขสิทธิ์ในระดับนานาชาติระหว่างสำนักพิมพ์ต่างๆ อีกด้วย

ค่าเข้าชมงานในปี 2013
ตั๋วราคาปกติ € 16
ตั๋วราคาลด (นักเรียนหรือผู้มีสิทธิพิเศษตามที่ระบุไว้) € 10

งาน Frankfurt Book Fair ปีนี้จะจัดระหว่างวันที่ 9-13 October 2013

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show23.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/tradeshow/BigImages/show24.jpg}Frankfurt Book Fair{/modal}

กินได้ กินดี – Europe

EU – Yummyfood รวมร้านอาหารอร่อยๆ ทั่วยุโรปมาไว้ที่นี่!!

 

Austria

 

Vienna

Figlmüller (มี 2 สาขา Wollzeile 5 และ Bäckerstraße 6, 1010 Wien)

ที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำหรับของหมูชุบแป้งทอดสไตล์เวียนนา หรือ Wiener Schnitzel มากว่า 100 ปี (ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1905) โดยตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์อันมีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา หรือ St. Stephan’s Dome สาขาต้นตำหรับจริงๆ ตั้งอยู่บนถนน Wollzeile 5 แต่ก็ยังมีอีกสาขาหนึ่งห่างไปไม่ไกล ตั้งอยู่บนถนน Bäckerstraße 6 โดยเมนูหลักของร้านนี้คงหนีไม่พ้น Figlmüller Schnitzel gebacken หรือหมูชุบแป้งทอด แผ่นกลมเนียน และบางได้ที่ อีกทั้งขนาดของชิ้นเนื้อที่กว้างโผล่พ้นขอบจานที่นำมาเสริฟ ช่วยสร้างความตื่นเต้นในแง่ของรูปลักษณ์ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจาก Schnitzel ที่ขึ้นชื่อที่นี่แล้ว ทางร้านยังมีน้ำองุ่นขาวที่ปลูกเองสดๆจากไร่องุ่นของ Figlmüller อันเป็นที่นิยมของลูกค้าหลายๆ คนอีกด้วย

 

–Pics Coming Soon–

Schnitzelwirt Schmidt (Neubaugasse 52, 1070 Wien)

ร้านนี้อาจไม่ดังในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก เมื่อเทียบกับ  Figlmüller แต่คนท้องถิ่นหลายคนกลับแห่แหนกันมากิน Schnitzel กันที่นี่ อาจเป็นเพราะราคาที่เป็นมิตรและการบริการที่เป็นกันเอง  บวกกับบรรยากาศแบบท้องถิ่น รวมไปถึงขนาดของ Schnitzel ชิ้นใหญ่โต ซึ่งไม่ง่ายนักสำหรับลูกค้าสุภาพสตรีที่จะกำจัดมันให้หมดไปได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะทางร้านมีกระดาษอลูมิเนียมฟอยด์ไว้ให้ลูกค้าบริการตนเอง สามารถห่อกลับบ้านได้อย่างไม่ต้องอายใคร (เพราะคนอื่นเค้าก็ห่อกลับบ้านกันทั้งนั้น)

 

–Pics Coming Soon–

 

Russia

 

Moscow และ St. Petersburg

Tepemok ร้านอาหารฟาส์ตฟู๊ด ที่คุณภาพไม่จานด่วนอย่างที่คิด ลักษณะพิเศษของร้านนี้คือหาได้ไม่ยาก เพราะตั้งอยู่เกือบทุกหัวระแหงตามสองเมืองนี้ อาหารห้ามพลาดคือเครป (Blini หรือ Blintz) สอดไส้หน้าต่างๆทั้งคาวและหวานตามเลือก โดยเฉพาะหน้าไข่ปลาแซลมอนและเนื้อปลาแซลมอน ซึ่งเข้ากับแป้งเครป ที่นุ่มละมุนลิ้นอย่างไม่น่าเชื่อ (จริงๆค่ะ) อีกอย่างคือน้ำหมักจากแป้งข้าวไรน์ Kvass ซึ่งว่ากันว่าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ (ตามมาตรฐานของชาวรัสเซีย) เนื่องจากมีแอลกอฮอลล์ (ABV: Alcohol by Volume) ราวๆ 0.05%-1.00 % เท่านั้น เห็นคุณภาพอาหารอย่างนี้ แต่ราคาไม่กระชากกระเป๋าเสียเลย เราจึงเดินเข้าออกร้านนี้กันทั้งวันเป็นว่าเล่น

 

–Pics Coming Soon–

 

Belgium

 

Dinant

Chez Bouboule(Rue Adolphe Sax 34, 5500 Dinant)

ร้านหอยแมลงภู่อบซอสชนิดต่างๆ ที่ว่ากันว่าปากต่อปากว่าอร่อยในระดับแนวหน้าของประเทศเบลเยี่ยม ที่ Chez Bouboule แห่งเมือง Dinant นี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ La Meuse สามารถหาเจอได้ไม่ยาก อร่อยขนาดไหน ต้องบอกว่าขนาดที่คนที่พักอาศัยในเมืองบรัสเซลล์ยังขับรถมากินกันถึงที่นี่ เมนูแนะนำก็คงจะหนีไม่พ้น หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาว ที่เป็นซอสยอดนิยมของหอยอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีทางร้านก็มีตัวเลือกของซอสอื่นๆ ให้เลือกกันกว่าสิบชนิด ข้อควรระวังของการไปกินที่ร้านนี้คือขนาดและปริมาณจะใหญ่และเยอะมาก(ประมาณ 1.2 kg) และทุกเมนูหอยอบจะมาพร้อมกับมันฝรั่งทอด ไว้กินแก้เลี่ยนอีก 1 จาน ขนาดผู้ชายตัวโตๆ ยังกินเกือบไม่หมดเลยทีเดียว

–Pics Coming Soon–

 

“บัณฑิตปริญญาเบียร์” – การเรียนการทำเบียร์ในประเทศเยอรมนี

เรื่องและสัมภาษณ์: พรรณพร อัชวรานนท์

จากคอลัมน์ “ก้าวที่แตกต่าง” (TSVD: opnmnd Magazine #2 เบียร์)

 
แต่ไหนแต่ไรมา เมื่อมีคนถามว่าเรียนต่อที่ไหนและเราตอบกลับว่า “ประเทศเยอรมนี” ผู้คนส่วนใหญ่จะทักกลับว่า “อ้อ… เมืองเบียร์นี่เอง” ประโยคสั้นๆ แค่นี้ แต่ทำให้เราอดคิดต่อไม่ได้ว่า การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองเบียร์” ได้นั้น แสดงว่าต้องไม่ธรรมดาในเรื่องของเบียร์จริงๆ และด้วยความพิเศษของกรรมวิธีการผลิตเบียร์ ประกอบกับนักศึกษาไทยที่สนใจมาศึกษาสาขานี้ค่อนข้างหายาก (แต่ก็ไม่เกินความพยายามของทีมงานเรานะคะ) opnmnd ฉบับนี้จึงพาพวกเรามารู้จักกับ พี่พนิต กิจสุบรรณ หรือพี่ปอน อดีตนักเรียนทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ เพื่อสังกัดศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (National Center for Genetic Engineering and Biotechnology หรือ BIOTEC) ที่ดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลจากบ้านเกิดเมืองนอน มาเรียนด้านวิศวกรรมอาหารโดยเน้นเทคโนโลยีการผลิตเบียร์ในเยอรมนี ซึ่งบุคคลนี้จะมาช่วยพวกเราไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการเรียนการทำเบียร์กัน ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักพี่ปอน พร้อมๆ กับการเจาะลึกลงไปในรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ
Continue reading “บัณฑิตปริญญาเบียร์” – การเรียนการทำเบียร์ในประเทศเยอรมนี

สุดยอดเทศกาลรื่นเริงแดนอินทรีเหล็ก… Bierfest

Bierfest!!

เรื่องและเรียบเรียง: พรรณพร อัชวรานนท์

ภาพ: กรกฎ ฉัตรชมชื่น, สุเมธ ขันแก้วผาบ, กฤษฎา ขันทะชา, พชร แก่นเมือง และ ธนะ คำรณฤทธิศร

จากคอลัมน์ “Terminal DE” (TSVD: opnmnd Magazine #2 เบียร์)


Bierfest!!

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ชาวเยอรมันหลายๆ คนมักจะเฝ้ารอเทศกาลหนึ่งมาเยือนอย่างใจจดใจจ่อ งานนั้นจะเป็นอะไรไปมิได้ หากไม่ใช่ “เทศกาลเบียร์” อันเลื่องชื่อ ที่หาได้จำกัดความดังอยู่แค่ในประเทศเยอรมนีเท่านั้นไม่ ว่ากันว่างานดังกล่าว โดยเฉพาะออคโทเบอร์เฟสท์ (Oktoberfest) ณ เมืองมึนเช่น (München) ที่จัดกันมากว่าสองร้อยปีและยังคงเฉลิมฉลองกันอยู่จนทุกวันนี้ ยังเป็นต้นแบบเทศกาลเบียร์แรกๆ ของโลกอีกด้วย ซึ่งเทศกาลเบียร์ส่วนใหญ่ที่ว่านี้ จะมีรูปแบบเป็น Volksfest (Folk Festival) คือ งานรื่นเริงสำหรับประชาชนทั่วไป ที่ไม่ต้องเสียค่าเข้างานใดๆ Continue reading สุดยอดเทศกาลรื่นเริงแดนอินทรีเหล็ก… Bierfest

ช๊อปได้ ช๊อปดี (Outlet Stores)

Happy Shopping

Happy Shopping

 

“ช๊อปที่ไหนของเยอะ ดีและถูก?” บทสนทนาที่มักจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวสำหรับคนไทย โดยที่ว่าหากมองข้ามเรื่องของการ “ช๊อปปิ้ง” ไปนั้น คงจะพาลคิดว่าเป็นคนไทย  “ปลอม” เป็นแน่แท้.. เราจึงขอรวบรวมเอาท์เลท (Outlet) ซึ่งเรามีโอกาสไปสัมผัสมาแล้ว ที่ลดราคาสินค้าได้ใจ (ที่ว่าถึงแม้ยังเป็นนักศึกษาทั่วๆไป ก็ยังต้องแอบเหลียวหลัง เพราะเป็นของแท้ ของดีและถูกจริง!!) เพื่อนำเสนอให้กับผู้ที่สนใจ เพราะถ้าได้มีโอกาสมายุโรป ดินแดนที่ก่อกำเนิดผลิตภัณฑ์คุณภาพต่างๆ หลากหลายยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ก็ไม่ควรพลาดโอกาสงามๆนี้ไป..

 


รู้ไว้ใช่ว่า: เห็นมีเยอะแยะไปหมด จริงๆแล้ว อะไรคือเอาท์เลท (Outlet)?

Outlet มีความหมายในภาษาไทยว่า “ทางออกหรือทางระบาย” ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ไม่ยากว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ไว้ระบายสินค้าออก โดยปกติแล้วเอาท์เลทจะตั้งอยู่ติดกับโรงงาน (Factory) หรือโกดังเก็บสินค้า (Warehouse) นี่จึงเป็นหนึ่งในที่มาว่าทำไมต้องเป็น Factory Outlet ซึ่งเอาท์เลทแรกๆเกิดขึ้นในช่วงยุค 1930 ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดประสงค์ในการขายสินค้ามีตำหนิหรือสินค้าที่มีเกินความต้องการให้แก่ พนักงานในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด  แต่ในภายหลังเปิดโอกาสให้คนธรรมดาทั่วไปซื้อสินค้านี้ได้เช่นเดียวกัน


 

ประเทศเยอรมนี

Wertheim Village (ใกล้ Frankfurt) (Almosenberg , 97877 Wertheim)
จุดเด่นของที่นี่สำหรับคนไทยคือเอาท์เลทกระเป๋าสุดฮิต Longchamp ที่หาได้ค่อนข้างยาก (ในยุโรปว่าถูกกว่าเมืองไทยแล้ว มาเจอเอาท์เลทในยุโรปอีกขั้น ราคาเลยถูกถล่มทลายเลยเชียว..) การเดินทางไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะอาจจะค่อนข้างลำบาก เนื่องจาก Wertheim เป็นเมืองเล็กๆไม่ค่อยมีรถไฟ หรือรถเมล์ผ่านมากนัก แต่ทาง Village ก็มีบริการรถโดยสารจากตัวเมือง Frankfurt ไปกลับทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ในราคาที่ย่อมเยาและค่อนข้างสะดวกสบาย นอกเหนือจาก Shop ของ Longchamp แล้ว Wertheim ก็ยังมี Outlet shop อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายร้าน อาทิ Asics, Bally, Calvin Klein Jeans, Lacoste และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Wertheim Village ได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim1big.jpg}Wertheim Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim3big.jpg}Wertheim Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim5big.jpg}Wertheim Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim6big.jpg}Longchamp in Wertheim Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim2big.jpg}Wertheim Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Wertheim4big.jpg}Wertheim Village{/modal}

Wertheim Village

Ingolstadt Village (ใกล้ Munich) (Otto-Hahn-Strasse 1, 85055 Ingolstadt)
เอาท์เลทนี้ตั้งอยู่นอกเมืองอินโกลชตัดท์ (Ingolstadt) เมืองที่ผลิตรถยนต์ชื่อดังเอาดี้ (Audi) การเดินทางไม่ลำบากมากนักจากตัวเมือง Ingolstadt ทั้งยังมีรถไฟจากต่างเมืองมาค่อนข้างมาก และมีบริการรถโดยสารจาก Munich มาที่ Village เป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ และจาก Nuremberg ในทุกวันเสาร์แรกของเดือนโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถอีกด้วยอีกด้วย แบรนด์ดังๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Fred Perry, Porsche Design, Tods, Versace และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Ingolstadt Village ได้ ที่นี่

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Ingolstadt3.jpg}Ingolstadt Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Ingolstadt1.jpg}Ingolstadt Village{/modal}

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Ingolstadt4.jpg}Ingolstadt Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Ingolstadt2.jpg}Ingolstadt Village{/modal}

 

Ingolstadt Village

OutletCity Metzingen (ใกล้ Stuttgart) (Reutlinger Str., 72555 Metzingen)
เมืองนี้มีจุดเด่นก่อนการตั้งต้นเป็นเอาท์เลทคือเป็นเมืองหลักที่ผลิตเสื้อผ้าแบ รนด์เนมชื่อดังของเยอรมนี นั้นคือ Hugo Boss เอาท์เล็ทที่ Metzingen จะมีลักษณะที่ต่างจากเอาท์เล็ท ของเครือ Chic Outlet Shopping และ McArthur เนื่องจากร้านค้าต่างๆ จะอยู่ในตัวเมืองทั้งหมดเปรียบเสมือนการเดินช๊อปปิ้งในเมืองอื่นๆ ทั่วไปแต่เป็นราคาเอาท์เล็ททั้งเมือง จึงได้ชื่อว่า Outletcity Metzingen โดยการเดินทางไป จะมีรถบัสรับส่งจาก Stuttgart ในราคาที่ไม่แพง แถมยังสามารถเดินทางโดยรถไฟที่มีทุกชั่วโมงจาก Stuttgart ได้อีกด้วย ร้านค้าที่น่าสนใจของ Metzingen นอกเหนือจาก Hugo Boss แล้วก็ยังมี Armani, Burberry, Michael Kors, Prada และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Outletcity Metzingen ได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen001big.jpg}Shopping in Metzingen{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen003big.jpg}Outletcity Metzingen{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen004big.jpg}Outletcity Metzingen{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen005big.jpg}Outletcity Metzingen{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen006big.jpg}Outletcity Metzingen{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/metzingen002big.jpg}Outletcity Metzingen{/modal}

 

McArthurGlen Designer Outlet Berlin (Alter Spandauer Weg 1, 14641 Wustermark OT Elstal)

หนึ่งใน Outlet ของเครือMcArthur Geln ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุง Berlin, เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี(ระยะเวลาเดินทางด้วยรถไฟราวๆ 30 นาที) หากเทียบปริมาณของร้านค้าที่มี Outlet ที่นี่อาจไม่โดดเด่นเหมือน Outlet แห่งอื่นๆ (จำนวนร้านค้าที่นี่ ประมาณ 90 ร้านค้า) แต่ร้านหลักๆ ที่เป็นตัวยืนพื้นของ Outlet ทั่วๆไป ก็มีอยู่ที่นี่อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Fossil, Lacoste, Timberland, Tommy Hilfiger และอื่นๆ อีกมากมาย Outlet แห่งนี้เปิดทำการให้ขาช็อปมาจับจ่ายใช้สอยกันตั้งแต่ 10 โมงไปหนึ่งทุ่ม และสองทุ่มในวันศุกร์-เสาร์  การเดินทางจาก Berlin ด้วยรถไปค่อนข้างสะดวกสบาย โดยไปลงที่สถานี Elstal แล้วต่อรถ Bus เพียงอีกอึดใจ สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Designer Outlet Berlin ได้ ที่นี่

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/berlin002big.jpeg}Designer Outlet Berlin{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/berlin003big.jpeg}Designer Outlet Berlin{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/berlin004big.jpeg}Designer Outlet Berlin{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/berlin001big.jpeg}Sale @ Designer Outlet Berlin{/modal}

 

McArthur Glen Designer Outlet Neumünster (ใกล้ Hamburg) (Oderstraße 10, 24539 Neumünster)

Designer Outlet Neumünster แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี ห่างจากเมือง Hamburg ไปทางทิศเหนือไม่ใกล้ ไม่ไกล โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีด้วยรถยนต์ และหากเดินทางด้วยรถไฟจะต้องต่อรถ Bus หมายเลข 77 จากสถานี Neumünster โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที นอกเหนือจากนี้แล้วทาง Outlet เอง ยังมี Shuttle Bus ไว้บริการในวันศุกร์-เสาร์ จากเมือง Hamburg และ Kiel อีกด้วย หากเทียบด้วยจำนวนร้านค้าแล้ว Designer Outlet Neumünster อาจไม่ได้ใหญ่โตนักเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่ร้านยอดนิยมขวัญใจมหาชนทั่วๆไป ก็มีให้เลือกซื้อกันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าที่อื่นเลย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Designer Outlet Neumünster ได้ ที่นี่

 

 

Ochtum Park (ใกล้ Bremen) (Bremer Straße 107, 28816 Stuhr)

แม้ว่าที่ Ochtum Park Outlet จะไม่ได้เป็นหนึ่งในเครือ Outlet ดังของยุโรป อย่าง McArthur Glen หรือ Chic Village จึงอาจทำให้บรรยากาศของการจับจ่ายซื้อของที่นี่ค่อนข้างเป็นแบบอนุรักษ์นิยม หากแต่ให้อารมณ์แบบ Outlet จริงๆ ลักษณะร้านค้าของที่นี่ ดูภายนอกคล้ายกับโกด้งเก็บสินค้า โดยเฉพาะร้าน Esprit ที่มีขนาดใหญ่มหึมายังกับโรงงาน เอาใจขาช็อปกับอย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว การเดินทางมายัง Ochtum Park นั้น มีรถ Bus หลายสายจาก Bremen Hauptbahnhof โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที นอกเหนือจากร้านค้า Outlet ต่างๆ แล้วยังมีร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังอย่าง IKEA ที่อยู่ติดกัน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยของชาวเมือง Bremen ที่สำคัญอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

 

 

 

ประเทศออสเตรีย

McArthurGlen Designer Outlet Parndorf (ใกล้ Vienna และ Bratislava) (Designer Outlet Straße 1, 7111 Parndorf)
เหมือนจะไม่ได้ตั้งใจแต่เอาท์เลทเก๋ไก๋เครือ McArthur นี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองหลวงของสองประเทศ ทั้งออสเตรียและสโลวาเกีย ข้อได้เปรียบเพิ่มในเรื่องของสถานที่ของ Parndorf Outlet คือตั้งอยู่ไม่ไกลมากจากประเทศเช็คและฮังการีอีกด้วย ว่ากันว่าคนออสเตรียน สโลวักหรือแม้แต่ในเช็คอยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องดั้นด้นมาซื้อหาของแบรนด์เนม ราคาถูกที่นี่แถมยังมีรถโดยสารที่สะดวกและไม่ไกลรับส่งจากเวียนนาอีกด้วย ร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ มารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างคับคั่ง อาทิ Aigner, Gucci, Ralph Lauren, Swarovski และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Parndorf Outlet ได้ ที่นี่

 

Parndorf 1Parndorf 2Parndorf 3Gucci Outlet Store @ Parndorf

McArthurGlen Designer Outlet Salzburg (Kasernenstrasse 1, Wals-Himmelreich, 5073 Salzburg)
อีกหนึ่งเอาท์เลทในดินแดนโมสาร์ท (Mozart) หนึ่งในเครือของ Designer Outlet เป็นเอาท์เลทที่รวบรวมร้านค้าต่างๆไว้ในตึก มีลักษณะคล้ายคลึงกับห้างสรรพสินค้าย่อยๆ แต่อย่าดูหมิ่นไป เพราะแต่ละร้านก็เสนอขายของแบรนด์เนมต่างๆ ได้ไม่แพ้ที่อื่นเลย การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากอยู่ใกล้ตัวเมือง Salzburg แม้ว่าปริมาณร้านค้าจะไม่มากเท่าที่อื่น และส่วนหนึ่งอาจเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยมากนัก แต่หากมีโอกาสแวะมาเที่ยวเมือง Salzburg แล้ว ลองแวะมาดูเผื่อได้ของถูกใจในราคาสบายกระเป๋า เป็นโบนัสกลับบ้านไปก็เป็นได้ ร้านค้าที่น่าสนใจอาทิ Camel Active, Crocs, Diesel, Valentino และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Salzburg Outlet ได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg4big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg3big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg5big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg2big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg6big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Salzburg1big.jpg}Designer Outlet Salzburg{/modal}

 

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

Fox Town Factory Stores (ใกล้ Lugano) (Via Angelo Maspoli 18, 6850 Mendrisio)
เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนของสองประเทศ ทั้ง สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ขาช๊อปจึงสามารถเลือกจ่ายสินค้าได้ ทั้งหน่วยเงินยูโรและสวิส ฟรังก์ ว่ากันว่าเอาท์เลทแห่งนี้ยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ลักษณะของ Fox Town Factory Stores นั้นจะเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ ทุกร้านจะขายของในราคา Outlet ห้าง Fox Town เปิดทำการทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ (เปิดวันอาทิตย์ด้วย!!) แถมร้านแบรนด์ดังต่างๆ ก็มีเพรียบพร้อม ไม่แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว อาทิ Ferrari Store, Gucci, Salvatorre Ferragamo, Yves Saint Lauren และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Fox Town Factory Outlet ได้ ที่นี่

*การเดินทางจากเมือง Milan ไปยัง  Serravalle Designer Outlet, Vicolungo The Style Outlets และ Foxtown Factory Stores สามารถจองตั๋วเดินทางได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Foxtown1big.jpg}Foxtown Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Foxtown3big.jpg}Foxtown Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Foxtown4big.jpg}Foxtown Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Foxtown2big.jpg}Foxtown Outlet{/modal}


Designer Outlet Landquart (ใกล้พรมแดน 3 ประเทศ Switzerland: Chur, Liechtenstein: Vadus & Austria) (Tardisstrasse 20a, 7302 Landquart)

แหล่งรวมสินค้าลดราคาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนของ 3 ประเทศด้วยกันคือ Switzerland, Liechtenstein และ Austria ทีมงานเราเชื่อว่า Outlet แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดและมีบรรยากาศที่ดีที่สุดในเอาท์เลทเกือบทั้งหมด เพราะมีเทือกเขา Alps เป็น Background โอบอยู่รายล้อมให้ดื่ม ด่ำระหว่างการเดินช็อปปิ้งอีกด้วย การเดินทางจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ด้วยรถยนต์จาก Liechtenstein หรือหากจะเดินทางด้วยรถไฟ Designer Outlet Landquart แห่งนี้ ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Landquart ที่สามารถเดินเท้าจากสถานีรถไฟไปยัง Designer Outlet ได้ ทีเด็ดอีกอย่างของที่นี่ ที่ชาวออสเตรียหรือประเทศเคียงใกล้อย่างเยอรมนียินดีปรีดามากคือเปิดทำการวันอาทิตย์เสียด้วย!!

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart5Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart1Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart4Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart3Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart2Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Landquart6Big.jpg}Designer Outlet Landquart{/modal}

 

 

 

 

ประเทศเนเธอร์แลนด์

McArthurGlen Designer Outlet Roermond (ใกล้ Brussels, Maastricht และ Aachen) (Stadsweide 2, 6041 Roermond)
หนึ่งในเอาท์เลทชั้นนำของกรุ๊ป McArthurGlen ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนของสามประเทศ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยมและเยอรมนี ในฤดูหนาวจะมีขนมวาฟเฟิลอบร้อนๆขายคู่กับวิปปิ้งครีม ส่วนในฤดูร้อนก็จะขายไอศกรีมเจลาโต้แทน ให้ผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยได้สนุกสนานไปกับของหวานอร่อยๆควบคู่กับการเดินดู ข้าวของ จุดเด่นของที่นี่คือร้านแบรนด์เนมหรูหราปักหลักกันอยู่อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Prada, Tods ฯลฯ มาล่อใจบรรดาขาช็อปกระเป๋าหนักกันอย่างจุใจ จุดเด่นอีกอย่างของ Designer Outlet Roermond ก็คือที่นี่จะเปิดให้บริการ ปีละ 363 วัน!!! (ยกเว้นวันคริสต์มาส 25 ธ.ค. และวันปีใหม่ 1 ม.ค.) เรียกได้ว่าเอาใจขาช็อปกันแบบสุดๆไปเลย ร้านค้าแบรนด์เนมขั้นนำ อาทิ Dolce & Gabbana, Prada, Tag Heuer, Tods และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Roermond Outlet ได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond1big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond5big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond4big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond6big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond7big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Roermond3big.jpg}Roermond Designer Outlet{/modal}

Roermond Designer Outlet

ประเทศเบลเยี่ยม

Maasmechelen Village (ใกล้ Brussels, Maastricht และ Aachen) (Zetellaan 100, 3630 Maasmechelen)
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศต้นตำหรับของกระเป๋าลิงน้อยคิปลิ่ง (Kipling) จะไม่กล่าวถึงก็กระไรอยู่ Maasmechelen Outlet เป็นหนึ่งในเครือของ Chic Outlet Shopping ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของสามประเทศได้แก่ เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมือง Cologne มากนัก ปริมาณร้านค้าที่นี่อาจเทียบกับหลายๆ ที่ไม่ได้ แต่แบรนด์หลักๆ ที่นี่ก็มีไม่ได้ขาด จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่นี่ให้ความรู้สึกสบายๆ ในการเดินช็อปปิ้ง เนื่องด้วยปริมาณผู้มาเยือนไม่มากจนเกินไป ร้านค้าชั้นนำของที่นี่ก็มีหลากหลาย อาทิ Fossil, Kipling, Samsonite, UGG และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Maasmechelen Village ได้ ที่นี่

 

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Maas1big.jpg}Maasmechelen Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Maas3big.jpg}Maasmechelen Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Maas2big.jpg}Maasmechelen Village{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Maas4big.jpg}Maasmechelen Village{/modal}

Maasmechelen Village

 

ประเทศอิตาลี

 

Serravalle Designer Outlet (ใกล้ Milan, Turin) (Via della Moda, 1 15069 Serravalle Scrivia (AL) Italy)

Disigner Outlet Serravalle ใกล้เมือง Milan เมือง Fashion ระดับแนวหน้าของโลก โดยร้านค้าต่างๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ชั้นนำของโลกมารวมตัวกันอยู่มากมาย นอกจากนี้แลัว Serravalle Designer Outlet ยังเป็น Designer Outlet ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย เปิดทำการทุกวันจันทร์ถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00-20:00 ทาง Outlet มีรถรับส่งให้บริการ จากเมือง Milan วันละ 2-3 รอบ โดยค่าโดยสาร ไปกลับจะอยู่ระหว่าง €20-25  ร้านค้าชั้นนำของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ Armani, Burberry, Gucci, Ferrari Factory Store, Bvlgari, Dolce & Gabbana และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Serravalle Designer Outlet ได้ ที่นี่

*การเดินทางจากเมือง Milan ไปยัง  Serravalle Designer Outlet, Vicolungo The Style Outlets และ Foxtown Factory Stores สามารถจองตั๋วเดินทางได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle4Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle6Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle2Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle3Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle5Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Serravalle1Big.jpg}Serravalle Designer Outlet{/modal}

 

Vicolungo The Style Outlets (ใกล้ Milan, Turin) (Piazza S. Caterina, 28060 Vicolungo Novara, Italy)

Vicolungo The Style Outlets ตั้งอยู่ที่เมือง Novara บนทางหลวงหมายเลข E64 ระหว่าง เมือง Milan และ Turin ร้านค้าต่างๆ ที่นี่ จะเป็นระดับกลางๆ ไม่ค่อยมีร้านค้าแบรนด์หรูมากนัก แต่ก็สามารถดึงดูขาช็อปมากันที่ Vicolungo ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าความหรูหราจะสู้กับ Outlet อื่นๆ ไม่ได้แต่ก็มีหลายๆ ร้านที่คนไทยคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี  ร้านค้าชั้นนำของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ Armani, Calvin Klein, Gap, Mango และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ใน Vicolungo The Style Outlets ได้ ที่นี่

*การเดินจากเมือง Milan ทางไปยัง  Serravalle Designer Outlet, Vicolungo The Style Outlets และ Foxtown Factory Stores สามารถจองตั๋วเดินทางได้ ที่นี่

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic5big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic3big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic6big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic1big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}

{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic4big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}{modal url=http://www.jan-punnaporn.com/images/stories/outletshopping/Vic2big.jpg}Vicolungo The Style Outlets{/modal}

 

 

Tips:

1. ในยุโรปจะมีหน้าลดราคาสินค้าหลักๆสองครั้งในแต่ละปี (ในแต่ละหน้าจะค่อยๆลดไล่ตั้งแต่ 30-50-70%) ครั้งแรกคือลดช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ (บางเมือง บางประเทศ อาจเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม) ครั้งที่สองคือลดช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม (บางเมือง บางประเทศ อาจเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน)

2. การจับจ่ายซื้อของในประเทศยุโรป ทั้งจากในห้างสรรพสินค้า เอาท์เลทหรือแม้กระทั่งร้านค้าทั่วๆไป (ส่วนใหญ่) มักจะมีบริการ Tax Free ให้กับนักท่องเที่ยว (การขอภาษี VAT: Value Added Tax คืนแก่นักท่องเที่ยว) ซึ่งอัตราภาษีและการใช้จ่ายขั้นต่ำจะขึ้นอยู่กับอัตราในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวที่มาซื้อของในประเทศเยอรมนี จะต้องใช้จ่ายขั้นต่ำในการขอ Tax Free ที่ 25 ยูโร และจะได้รับภาษีคืนเป็นอัตรา 15.97% ของมูลค่าของที่ซื้อ (6.54% สำหรับสินค้าพิเศษ เช่น อาหาร ฯลฯ) ตรวจสอบ Tax Refund ของประเทศเยอรมนีได้จากตารางด้านล่าง

3. ถ้าอยากได้ของราคาถูกที่สุดในการมาช๊อปปิ้งที่เอาท์เลทเหล่านี้ คือ พยายามมาในช่วงที่ลดหลักๆสองครั้งในรอบปี เพราะขั้นแรกจะได้ราคาลดเอาท์เลท (จากราคาเต็ม) ขั้นสองคือราคาลดหน้าลด (จากราคาเอาท์เลท) แถมยังสามารถลดจากการได้ Tax Free คืนอีก เรียกว่าโชคสามชั้น..ที่ว่าไม่ได้เกิดเป็นคนยุโรปก็โชคดีไปอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว..

4. เอาท์เลทเหล่านี้มักจะอยู่รอบนอกของเมืองใหญ่ๆ (ไปอยู่ไกลๆเมืองใหญ่ๆแล้วเกรงว่าจะไม่มีคนไปจับจ่ายใช้สอยเอา..) เนื่องจากต้องใช้พื้นที่ในการสร้างและวางผังมาก รถไฟจึงมักจะไปไม่ถึง หากแต่สามารถเดินทางไปด้วยรถยนต์และรสบัสโดยสารได้ โดยรถบัสมักจะออกจากเมืองใหญ่ๆเพื่อพาผู้โดยสารเดินทางไปซื้อของโดยเฉพาะ ราคาค่าโดยสารมักจะอยู่ที่ราวๆ 10 ยูโรขึ้นไปในการเดินทางไปและกลับจากเมืองใหญ่ๆ โดยสามารถหาข้อมูลที่อัพเดตเพิ่มเติมได้ในเวบไซต์ของแต่ละเอาท์เลท

ป.ล. ร้านค้าประเภทเอาท์เลทยังมีอีกมากมายหลากเมือง หลายประเทศในยุโรป ที่เรานำเสนอเป็นส่วนที่ได้ไปลองสัมผัสจากประสบการณ์จริงและเห็นว่าดีควรค่าแก่การนำมาเสนอต่อเท่านั้น หากมีโอกาสและกำลังทรัพย์ต่อไปในการไปหาข้อมูล จะมีการนำข้อมูลจากเอาท์เลทอื่นๆมาเพิ่มเรื่อยๆ..  (เพราะต้องใช้ทรัพย์ทั้งการเดินทางไปและที่สำคัญคือระหว่างที่อยู่หาข้อมูล ในเอาท์เลทนั้นๆ.. ฮิฮิ)

 

Pics Gallery

{gallery}outletshopping/2{/gallery}

{gallery}outletshopping/3{/gallery}

{gallery}outletshopping/4{/gallery}

{gallery}outletshopping/1{/gallery}

 

 

ตุรกี: สุเหร่าสีนํ้าเงิน บ้านภูเขาหินเจาะ ปราสาทปุยฝ้ายและเตอร์กิชเคบับ

The blue mosque, Istanbul

เรื่อง: พรรณพร อัชวรานนท์ ภาพ: ธนะ คำรณฤทธิศร

จากคอลัมน์ “Terminal EU” (TSVD: opnmnd Magazine #2 เบียร์)
The blue mosque, Istanbul


เมื่อมีโอกาสมาร่ำเรียนหรือทำงานในประเทศเยอรมนีหรือเขตประเทศเชงเก้น (Schengen) แล้ว น้อยคนนักอยากจะเดินทางท่องเที่ยวออกนอกเขตดังกล่าว เนื่องจากการสัญจรข้ามพรมแดนประเทศต่างๆ ภายในเขตแดนนี้มีความสะดวกสบายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังไม่ต้องยุ่งยากกับการขอวีซ่าเข้าในแต่ละประเทศอีก หากแต่ในทวีปยุโรปยังมีอีกประเทศหนึ่งนอกเขตเชงเก้น ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (อีกต่อไป) เนื่องจากประเทศไทยเพิ่งทำข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการยกเว้นการขอวีซ่า และนั่นคือ “ประเทศตุรกี” ดินแดนแห่งสองทวีป (ยุโรป-เอเชีย) นี่เอง…

 

Continue reading ตุรกี: สุเหร่าสีนํ้าเงิน บ้านภูเขาหินเจาะ ปราสาทปุยฝ้ายและเตอร์กิชเคบับ

เมาไม่ขับ (เยอรมนี)

ถึงแม้ว่าจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเบียร์ แต่อัตรการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศเยอรมนีโดยมีสาเหตมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ กลับมีน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุผลหนึ่งคงอาจเป็นเพราะว่า กฏหมายโทษปรับของการเมาแล้วขับในประเทศเยอรมนีแห่งนี้ค่อนข้างที่จะรุนแรง ว่าแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าโทษของการเมาแล้วขับในประเทศเยอรมนีจะรุนแรงขนาดไหน

ก่อนอื่นเรามาทราบกันก่อนว่าการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดของประเทศเยอรมนีนั้น จะวัดเป็นอัตราส่วนเทียบกับมวลของปริมาณเลือดที่มีอยู่ในร่างกาย เป็นหน่วยที่เรียกว่า Promille (g/kg)

1. ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดตั้งแต่ 0.3 แต่น้อยกว่า 0.5 Promille
หากไม่แสดงอาการมึนเมาหรือ ควบคุมสติไม่ได้ จะไม่มีโทษปรับใด

2. ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดมากกว่า 0.5 Promille โทษปรับ € 500 บวกกับแต้มในใบขับขี่ 4 แต้ม และถูกยึดใบขับขี่เป็นเวลา 1 เดือน
หากมีประวัติเมาแล้วขับมาก่อนหน้านี้ โทษปรับ € 1000 บวกกับแต้มในใบขับขี่ 4 แต้ม และถูกห้ามขับขี่รถยนต์เป็นเวลา 3 เดือน
หากมีประวัติเมาแล้วขับมาก่อนหน้านี้มากกว่า 1 ครั้ง  โทษปรับ € 1500 บวกกับแต้มในใบขับขี่ 4 แต้ม และถูกห้ามขับขี่รถยนต์เป็นเวลา 3 เดือน

3. ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดมากกว่า 1.1 Promille ขึ้นไป อาจมีโทษทั้งจำคุก และโทษปรับ รวมไปถึง 7 แต้ม และยึดใบขับขี่ 6 เดือน ถึง 5 ปี
ในกรณีที่ต้องการใบขับขี่คืนจะมีค่าปรับเป็นจำนวน 1-2 เท่าของรายได้สุทธิต่อเดือน

4. ในกรณีที่แสดงอาการมึนเมาและควบคุมสติไม่ได้ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดอุบัติเหตุ
ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดตั้ั้งแต่ 0.3 Promille ขึ้นไป
จะมีโทษปรับเป็นเงิน และแต้มในใบขับขี่อีก 7 แต้ม รวมไปถึงการจำคุกไม่เกิน 5 ปี

ในกรณีของผู้ขับขี่ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี หรือยังอยู่ในช่วงระยะเวลาทดลอง Probezeit (สองปีนับจากวันที่ออกใบขับขี่) ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเลย (0.0 Promille) หากถูกจับได้ จะมีโทษปรับ € 250 บวกกับแต้มสะสมในใบขับขี่ 2 แต้ม และรวมไปถึงการบังคับเข้าอบรมสัมนา MPU(Medizinisch-Psychologische Untersuchung) และยืดระยะเวลาทดลอง (Probezeit) ออกไปอีกสองปีจากระยะเวลาทดลองเดิม

หมายเหตุ: จำนวนโทษปรับเป็นจำนวนขั้นต่ำ

หลักการคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดอย่างคร่าวๆ

ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ก่อนว่าในตัวเรามีปริมาณเลือดอยู่เท่าไร โดยสามารถคำนวณได้จาก
น้ำหนักตัว(kg) x อัตราส่วนของปริมาณเลือด

อัตราส่วนของปริมาณเลือดในร่างกาย มีค่าประมาณ 0.8 ในเพศชาย และ 0.7 ในเพศหญิง

ยกตัวอย่างเช่น

80 x 0.8 = 64 kg

จากนั้นทำการคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
ยกตัวอย่างเช่น เบียร์ 1 ขวด (500 ml) ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่ 5%

500 x 0.05 = 25 ml

และเนื่องด้วยความถ่วงจำเพาะของ แอลกอฮอล์ที่ ประมาณ 0.8 น้ำหนักของแอลกอฮอล์จริง จะมีค่าเท่ากับ

25 x 0.8 = 20g

ถึงขั้นนี้แล้ว เราก็จะสามารถนำปริมาณของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป เทียบกับประมาณเลือดในร่างกายได้ดังนี้

20g / 64 kg = 0.31 Promille

 

Online Shopping with Cash Back on qipu.de

qipu

qipu

Online Shopping with Cash Back on www.qipu.de

 

 

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าระบบซื้อข้าวของในประเทศเยอรมนีนั้นค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรา(ประเทศไทย) การซื้อของทางอินเตอร์เน็ตและการส่งสินค้าในประเทศเยอรมนีค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือในระดับที่สูง อีกทั้งยังมีราคาที่ย่อมเยากว่าการซื้อของตามร้านค้าปกติทั่วไป แถมยังมีการรับประกันการคืนสินค้าได้เช่นเดียวกัน


การซื้อของทางออนไลน์นั้นถือเป็นเทคนิคที่แพร่หลายในการช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของเราได้ส่วนหนึ่ง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักระบบการคืนเงิน หรือ Cash Back ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราประหยัดเงินจากการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว เรายังจะได้รับเงินคืนเป็นเปอร์เซ็นต์อีกด้วย จำนวนเงินที่่จะคืนหรือ Cash Back นั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าที่ขายสินค้าและบริการ

เว็บไซต์หนึ่งที่น่าสนใจและมีระบบการคืนเงินให้กับลูกค้า ก็คือ qipu.de การทำงานของเว็บนี้็คือ ขั้นแรก เราจะต้องลงทะเบียนกับทางเว็บไซต์ โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ รวมไปถึง เลขบัญชีธนาคาร เพื่อให้ทางเว็บโอนเงินกลับเข้ามาในบัญชีของเรา หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการ Login เข้าสู่ระบบของเว็บ qipu.de และหากเราต้องการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรก็ตามผ่านทางออนไลน์ ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบในเว็บ qipu.de ถึงเงื่อนไขการคืนเงิน และสามารถกดลิงค์เข้าไปในเว็บที่เราต้องการจะซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทาง qipu.de ได้เลย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราได้ซื้อสินค้าและบริการในราคาที่ประหยัดแถมยังได้เงินคืนอีกด้วย


Brandswithcashback

ยกตัวอย่างเช่น

Deutsche Post จะให้เงินคืน 4% จากยอดการใช้จ่าย หากเราต้องการส่งพัสดุภายในประเทศ Päckchen โดยปกติแล้วหากเราเดินไปที่สาขาของ Deutsche Post จะมีราคา €4,10 ส่วนราคาในเว็บไซต์จะถูกกว่าคือ €3,99 และเมื่อเราซื้อผ่านเว็บ qipu จะให้เงินคืนอีก €0,16 ซึ่งจะทำให้การส่งพัสดุในครั้งนี้ประหยัดไปได้ถึง €0,27 เลยทีเดียว

นอกเหนือจาก Deutsche Post แลัว ยังมีร้านค้าอีกมากมายที่มีระบบคืนเงินผ่านเว็บไซต์ qipu.de ไม่ว่าจะเป็น การเปิดบัญชีธนาคาร ทำสัญญาโทรศัพท์มือถือ ซื้อตั๋วเครื่องบิน เช่ารถยนต์ และร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย

 

Reference: www.qipu.de